ใช่! และวันนี้เราจะพาทุกคนไปรู้จักกับไมโครพลาสติก ซึ่งเป็นอนุภาคขนาดเล็กของพลาสติกหรือขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางน้อยกว่า 5 มิลลิเมตรขึ้นไป ที่สำคัญไมโครพลาสติกบางชิ้นนั้นมีขนาดเล็กมาก และไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า
โดยลักษณะส่วนใหญ่ของไมโครพลาสติกนั้นจะมีลักษณะเป็นรูปทรงเรขาคณิต เช่น วงกลม วงรี สี่เหลี่ยม และอื่น ๆ การก่อตัวของไมโครพลาสติกนั้น มีหลากหลายที่มา ทั้งด้วยความตั้งใจและความไม่ตั้งใจ โดยทั่วไปไมโครพลาสติกนั้นจะเกิดขึ้นจากการย่อยสลายผ่านระยะเวลาการใช้งานของพลาสติกขนาดใหญ่หรือการแตกกระจายของพลาสติกจากการใช้พลาสติกเกินความสามารถของมัน และการตั้งใจสร้างพลาสติกขนาดเล็กเพื่อใช้ประกอบการทำอุตสาหกรรม ไมโครพลาสติกที่มนุษย์เราคุ้นชินและพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน มีสองประเภท ได้แก่ ไมโครพลาสติกปฐมภูมิ (Primary Microplastic) และไมโครพลาสติกทุติยภูมิ (Secondary Microplastic) ซึ่งทั้งสองชนิดมีความแตกต่างกัน ดังนี้
1. ไมโครพลาสติกปฐมภูมิ (Primary Microplastic) เป็นพลาสติกประเภทที่ถูกใช้ในวงการอุตสาหกรรม กล่าวคือ เป็นพวกไมโครพลาสติกที่ถูกออกแบบมาให้มีขนาดเล็กเพื่อนำไปใช้สำหรับวัตถุประสงค์ในการผลิตหรือนำไปใช้แบบเฉพาะด้าน เช่น เม็ดพลาสติกบริสุทธิ์ ที่นำไปใช้ผลิตภาชนะใส่สิ่งของ กลิตเตอร์ ใช้สำหรับการตกแต่งอาหารและเม็ดบีดส์ ที่นำไปใช้ในสิ่งของเครื่องใช้ อาทิ ยาสีฟันที่มีเม็ดขัดฟัน โฟมล้างหน้าที่มีเม็ดขัดผิว ฯลฯ ส่วนข้อเสียของไมโครพลาสติกประเภทปฐมภูมิก็มีอยู่เหมือนกันตรงที่ มักแพร่กระจายสู่ธรรมชาติได้ง่าย เนื่องจากกระบวนการอุตสาหกรรมต้องทิ้งของเสียหลังกระบวนการผลิต การแพร่กระจายของไมโครพลาสติกสู่สิ่งแวดล้อมและแหล่งน้ำจึงเกิดขึ้นอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้
2. ไมโครพลาสติกทุติยภูมิ (Secondary Microplastic) เป็นพลาสติกประเภทที่มีต้นกำเนิดมาจากการย่อยสลายหรือการแตกหักของมาโครพลาสติก (Macroplastic) ทั้งจากการสะสมอยู่ในสิ่งแวดล้อมเป็นเวลานานและย่อยสลายตามธรรมชาติ และจากกระบวนการทางวิทยศาสตร์ เช่น ทางเคมี ชีวภาพ และแสงอาทิตย์ ผลิตภัณฑ์ที่เกิดจากกระบวนการนี้สามารถพบเห็นได้ทั่วไปในชีวิตประจำวัน เช่น ขวดน้ำ ถุงพลาสติก อวนจับปลา เป็นต้น สำหรับข้อเสียของไมโครพลาสติกทุติยภูมิ คือ เมื่อโครงสร้างถูกย่อยสลายจนมีขนาดที่เล็กลง ไมโครพลาสติกจะแปรสภาพเป็นสารแขวนลอยปนเปื้อนอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น อากาศ และแม่น้ำ
ไมโครพลาสติกที่มีสถานะเป็นสารแขวนลอยนั้นสามารถอยู่ได้ในทุกสถานที่เป็นระยะเวลานานถึง 450 ปี ก่อนเข้ากระบวนการย่อยสลายตามธรรมชาติ และเนื่องจากไมโครพลาสติกนั้นมีขนาดเป็นอนุภาคอะตอมที่เราไม่สามารถมองเห็นได้ด้วยตาเปล่า เราจึงไม่สามารถทราบได้ว่ามันจะมาจากทิศทางใดบ้าง
แล้วไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายได้อย่างไร ? คำตอบก็คือการเข้าสู่ร่างกายของไมโครพลาสติกมีหลายช่องทาง ทั้งจากการสัมผัส ไม่สัมผัส โดยรูปแบบการนำไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายแบบไม่สัมผัส ได้แก่ การสูดดม รวมไปถึงการลอยอยู่ในสิ่งแวดล้อม เช่น อากาศ และน้ำ ทำให้เราต่างรับเอาไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้ นอกเหนือจากนี้ บรรจุภัณฑ์ที่ใช้บรรจุอาหารล้วนแล้วแต่ทำมาจากพลาสติก ทำให้ไมโครพลาสติกสามารถแพร่เข้าสู่ร่างกายเราได้ง่ายเมื่อเราบริโภคอาหารจากบรรจุภัณฑ์พลาสติกเหล่านี้
ทั้งนี้ ขยะพลาสติกเหล่านี้ เมื่อนำไปใช้ในรูปแบบครั้งเดียวทิ้ง จะไม่สามารถย่อยสลายได้ตามธรรมชาติภายในระยะเวลาอันสั้น จึงมักถูกนำไปทิ้งในที่ที่ไม่ควรทิ้ง เช่น ฝังดิน ทิ้งลงแหล่งน้ำ แม่น้ำ ทะเล ที่ซึ่งเป็นที่อยู่ของสัตว์เลี้ยง เมื่อสัตว์เหล่านั้นบริโภค ร่างกายก็จะซึมซับพลาสติกเหล่านั้นเข้าไป ไม่ว่าจะเป็นการซึมเข้าสู่ร่างกายทางสารเคมี หรือการที่สัตว์กินพลาสติกเหล่านั้นเข้าไปเอง ทั้งนี้ ผู้ที่รับผลเสียรายต่อไปในห่วงโซ่อาหาร ได้แก่ มนุษย์ ซึ่งจำเป็นต้องบริโภคสัตว์เหล่านั้นเพื่อการดำรงอยู่ กล่าวคือ การนำไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายนั้นมีระบบการทำงานแบบห่วงโซ่อาหาร เริ่มจากเราใช้พลาสติกเกินจำนวนจนย่อยสลายไม่ทัน – เราทิ้งขยะพลาสติกลงไปในสิ่งแวดล้อม – พลาสติกถูกย่อยสลายเป็นไมโครพลาสติก – ไมโครพลาสติกซึมซับเข้าสู่ร่างกายของสิ่งมีชีวิตอื่น – เราต้องบริโภคสิ่งมีชีวิตอื่นเพื่อการดำรงชีวิต
อย่างไรก็ดี หากร่างกายของเรานั้นมีไมโครพลาสติกสะสมอยู่ภายในเป็นระยะเวลานาน อาจก่อให้เกิดปัญหาสุขภาพได้ การทำงานของไมโครพลาสติกในร่างกายนั้นจะฝังเข้าไปในอวัยวะภายในหรือเนื้อเยื่อ และย่อยสลายภายในร่างกาย ถูกแปรสภาพเป็นสารพิษนานาชนิด ทำหน้าที่เป็นชนวนระเบิด หรือ ตัวเร่งเวลาระเบิด โดยที่ผลกระทบนั้นจะออกมาต่างกันในแต่ละบุคคล และแต่ละช่วงอายุ กล่าวคือ หากมีโรคที่ส่งต่อจากพันธุกรรมอยู่แล้ว ไมโครพลาสติกนั้นจะทำหน้าที่เป็นตัวเร่งเวลาระเบิดให้โรคนั้นเกิดขึ้นก่อนเวลาที่ควรจะเป็น เช่น โรคที่ปกติแล้วจะเป็นในตอนมีอายุมาก ไมโครพลาสติกก็จะไปกระตุ้นให้โรคนั้นเกิดก่อนที่จะถึงวัยอันควร
แต่ในกรณีที่ไม่มีโรคส่งต่อทางพันธุกรรม ไมโครพลาสติกจะทำหน้าที่เป็นตัวก่อชนวนระเบิด ปล่อยสารพิษทางเคมีให้เกิดโรคต่าง ๆ เช่น รบกวนฮอร์โมนเพศชายและทำให้เกิดโรคเสื่อมสมรรถภาพทางเพศ ส่งผลให้พัฒนาการของเด็กเล็กสุ่มเสี่ยงการเกิดออทิสติกเทียม ขัดขวางการทำงานของเส้นเลือด โดยไปอุดตันตามหลอดเลือดทำให้เลือดหล่อเลี้ยงอวัยวะได้ลำบาก นอกจากนี้ไมโคร พลาสติกเป็นตัวกลางนำสารพิษเข้าสู่ร่างกายให้ทำให้เกิดโรคเล็ก ๆ ประปรายไปจนถึงโรคร้ายอย่างมะเร็ง
เนื่องจากปัญหาไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกายนั้นสาเหตุหลักมาจากการใช้พลาสติกและการบริโภคของมนุษย์ วิธีการแก้ไขและป้องกันก็ควรที่จะเริ่มที่มนุษย์ และการเลือกบริโภคให้ปลอดภัยมากยิ่งขึ้น นางสาวสุรพิญช์ พูลประเสริฐ นักศึกษาปริญญาโท คณะวิทยาศาสตร์ สาขาวัสดุศาสตร์ วิทยาศาสตร์นาโนและเทคโนโลยีนาโน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ แนะนำวิธีป้องกันไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย และการลดใช้พลาสติกแบบยั่งยืนว่า
“ควรงดใช้พลาสติกในทุกกริยาการใช้ชีวิตประจำวัน เริ่มจากง่าย ๆ เช่น ทิ้งขยะพลาสติกให้ถูกวิธี คัดแยกประเภทขยะให้อยู่ในประเภทของมัน ไม่ทิ้งลงแหล่งธรรมชาติ การพกถุงผ้าไปซื้อสินค้า และปฏิเสธการรับถุงพลาสติก พกแก้วน้ำและหลอดแบบวัสดุอื่น ๆ ที่ไม่ใช่พลาสติกเพื่อลดการซื้อน้ำขวดหรือใช้แก้วและหลอดพลาสติก ลดการสั่งอาหารแบบเดลิเวอรี่ และเปลี่ยนเป็นการทำอาหารรับประทานเองหรือรับประทานที่ร้านเพื่อลดการใช้พลาสติก การทำอาหารเองยังสามารถเลือกวัตถุดิบได้อย่างปลอดภัย ได้ทราบที่มาของมื้ออาหารทุกขั้นตอน และทานอาหารทะเลให้น้อยมื้อลงกว่าเมื่อก่อนเพื่อลดความเสี่ยงในการนำไมโครพลาสติกเข้าสู่ร่างกาย”
จะเห็นได้ว่า วิธีป้องกันที่ควรมุ่งเน้นที่สุด คือการลดใช้วัสดุพลาสติกแบบใช้แล้วทิ้ง เพื่อให้จำนวนขยะพลาสติกนั้นลดลง และทำลายห่วงโซ่อาหารที่มีไมโครพลาสติกผสมอยู่ในนั้นหายไป
เรื่อง และภาพประกอบบทความ : พรหมพิริยะ ชวนกระโทก
เรียบเรียง สุชาลินี สุขุมทอง
พิสูจน์อักษร ฐิติมา ยิ้มประเสริฐ และ สุชาลินี สุขุมทอง
ผลงานของนักศึกษากลุ่มวิชาวารสารศาสตร์บูรณาการ คณะการสื่อสารมวลชน มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
แหล่งอ้างอิงปฐมภูมิ
แหล่งอ้างอิงทุติยภูมิ
Petromat. (2565). ไมโครพลาสติก : ผลกระทบต่อสุขภาพของมนุษย์. https://petromat.org/home/microplastics-human-health-impacts/ สืบค้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567
Eucerin. (2567). Microplastics in Skincare Products.ไมโครพลาสติก คืออะไร. สืบค้นเมื่อวันที่ 1 กันยายน 2567
Amarc. (2566). ไมโครพลาสติก ภัยเงียบในห่วงโซ่อาหาร. https://amarc.co.th/microplastics-knowledge/ สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567
Thecommons. (2566). 9 Ways to Avoid Microplastics at Home. https://www.thecommons.earth/blog/how-to-avoid-microplastics สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567
BBCNEWS ไทย. (2019). มนุษย์รับไมโครพลาสติกเข้าร่างกายนับแสนอนุภาคต่อปี. BBCNEWS. https://www.bbc.com/thai/features-48541027# สืบค้นเมื่อวันที่ 2 กันยายน 2567
Thai PBS. (2563). ช็อก! คนเสี่ยงกินพลาสติก 5 กรัมต่อสัปดาห์เทียบบัตรเครดิต. Thai PBS. https://www.thaipbs.or.th/news/content/287817 สืบค้นเมื่อวันที่ 4 กันยายน 2567
ศีลาวุธ ดำรงศิริ ,เพ็ญรดี จันทร์ภิวัฒน์. (2019). ไมโครพลาสติกในแหล่งน้ำจืดและแหล่งน้ำเพื่อการอุปโภคบริโภค. สิ่งแวดล้อมไทย. https://ej.eric.chula.ac.th/article/view/82 สืบค้นเมื่อวันที่ 7 กันยายน 2567
หม้อแปลงไฟฟ้าอัจฉริยะเป็นผลงานการวิจัยของสถาบันวิจัยและพัฒนาพลังงานนครพิงค์ มช. ที่คิดค้นหม้อแปลงที่สามารถคำนวณความต้องการใช้พลังงานของอาคาร และส่งข้อมูลไปยังแหล่งจ่ายไฟฟ้าเพื่อกำหนดปริมาณกระแสไฟฟ้าให้เพียงพอต่อความต้องการ
เมื่อรัฐประกาศนโยบายห้ามเผาเด็ดขาด (Zero Burning) ใน 77 จังหวัด ในขณะที่สภาลมหายใจเชียงใหม่ และเครือข่ายภาคประชาสังคมเห็นต่าง บทสรุปจะเป็นอย่างไร ชวนไปติดตาม...
โมเดลรถสองแถวไฟฟ้า (EV) ที่เริ่มวิ่งให้บริการ 2 คันในเชียงใหม่ หวังต่อยอดไปสู่รถขนส่งและโดยสารอื่น ๆ ได้ในอนาคต