กีฬาซีเกมส์ครั้งที่ 33 ที่ไทยเป็นเจ้าภาพในปี 2025 นี้ มีกีฬาชนิดหนึ่งที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในซีเกมส์ และเราอยากพาทุกคนไปรู้จัก นั่นก็คือ ศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสานที่เรียกว่า (Mixed Martial Arts หรือ MMA) เป็นการต่อสู้ที่รวมศิลปะการต่อสู้แบบผสมสานหรือหลายแขนงเข้าด้วยกัน ไม่ว่าจะเป็นมวยไทย มวยสากล ยูโด มวยปล้ำ คาราเต้ แซมโบ บราซิลเลี่ยน ยูยิสสู (Jiu-Jitsu) มีทั้งการเตะต่อย และการทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้
ว่ากันว่า ศิลปะการต่อสู้ป้องกันตัวแบบผสมผสานหรือ MMA นั้น จัดขึ้นในยุคแรกๆ ที่ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อ ค.ศ. 1993 ในการแข่งขัน UFC (Ultimate Fighting Championship) ซึ่งเป็นองค์กรศิลปะการต่อสู้แบบผสมผสาน (MMA) ที่ใหญ่ที่สุดในโลก และเป็นผู้จัดการแข่งขัน MMA ที่โด่งดังที่สุดเช่นเดียวกัน
MMA นับเป็นการแข่งขันการต่อสู้ด้วยมือเปล่าที่บริสุทธิ์ที่สุดเพราะมันได้นำเอาองค์ประกอบที่ดีที่สุดของศิลปะการต่อสู้ต่างๆ มาผสมผสานกัน และเป็นการแข่งขันแบบวันเดียวจบ จะแพ้หรือชนะอยู่ที่การน็อกคู่ต่อสู้หรือทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ และกรรมการในเวทีสั่งยุติการแข่ง
อย่างไรก็ดี MMA มีความแตกต่างจากมวยไทยตรงที่ MMA มีครบทั้งยืนสู้และนอนสู้ (Ground Game) ซึ่งมวยไทยเน้นการยืนสู้และเข้าวงในด้วยเข่า ศอก นอกจากนี้ MMA ยังสามารถทำให้คู่ต่อสู้ยอมแพ้ด้วยการรัดคอหรือล็อกข้อต่อบนพื้นได้ (Submission) ซึ่งมวยไทยทำไม่ได้ เสน่ห์ของ MMA จึงอยู่ที่การเป็น "ศิลปะการต่อสู้แบบองค์รวม" ที่เตรียมพร้อมสำหรับทุกรูปแบบการเผชิญหน้า มากกว่าจะเป็นแค่ศิลปะการยืนสู้ที่ทรงพลังเหมือนมวยไทย

ปัจจุบัน UFC มีบทบาทสำคัญในการผลักดันให้มีการกำหนดกฎกติกามาตรฐานสำหรับกีฬาชนิดนี้ทั่วโลก และในปี 2009 หน่วยงานกำกับดูแลในสหรัฐอเมริกาและองค์กรจัดการแข่งขันกีฬาต่อสู้หลายแห่งทั่วโลกได้นำมาตรฐานที่เรียกว่า กฎกติกาการต่อสู้แบบผสมผสาน (Unified Rules of Mixed Martial Arts) มาใช้ โดยภายใต้กฎเหล่านี้ ผู้เข้าร่วมการแข่งขัน MMA จะแข่งขันในเวทีหรือพื้นที่ที่มีรั้วกั้น และจะต้องต่อสู้โดยใส่ถุงมือนวมแบบไม่มีนิ้วที่มีแผ่นรอง ใส่ฟันยาง ไม่สวมรองเท้าหรืออุปกรณ์ป้องกันศีรษะ มีการพักยก และมีแพทย์สนามที่สามารถสั่งยุติแบบการแข่งขันมวย
ทั้งนี้ ผู้เข้าแข่งขันจะสามารถชก ตี เตะหรือปล้ำกับคู่ต่อสู้ได้ และการโจมตีสามารถทำได้ทั้งจากท่ายืนหรือขณะอยู่บนพื้น อย่างไรก็ตาม การโขกศีรษะ การจิ้มตา (การจิ้มนิ้วหรือนิ้วโป้งเข้าไปในตาของคู่ต่อสู้) การกัด การดึงผม และการโจมตีบริเวณอวัยวะเพศทุกชนิดเป็นสิ่งต้องห้าม การศอกลง การตีที่ลำคอ และการตีที่กระดูกสันหลังหรือด้านหลังศีรษะก็ผิดกฎหมายเช่นกัน รวมถึงการโจมตีบางอย่างต่อคู่ต่อสู้ที่อยู่บนพื้น เช่น การเตะหรือใช้เข่ากระแทกศีรษะ หากนักสู้ทำผิดกฎ กรรมการอาจออกคำเตือน หักคะแนน หรือโดยเฉพาะอย่างยิ่งในกรณีที่ถือว่าเป็นการทำฟาวล์อย่างร้ายแรง อาจตัดสิทธิ์ผู้เข้าแข่งขันที่ทำผิดกฎได้
การแข่งขัน MMA ในปัจจุบัน UFC ได้รับรองรุ่นน้ำหนักทั้งหมด 8 รุ่นใน MMA ชาย โดยน้ำหนักสูงสุดของแต่ละรุ่น ได้แก่ รุ่นฟลายเวท 125 ปอนด์ (57 กก.) รุ่นแบนตัมเวท 135 ปอนด์ (61 กก.) รุ่นเฟเธอร์เวท 145 ปอนด์ (66 กก.) รุ่นไลท์เวท 155 ปอนด์ (70 กก.) รุ่นเวลเตอร์เวท 170 ปอนด์ (77 กก.) รุ่นมิดเดิลเวท 185 ปอนด์ (84 กก.) รุ่นไลท์เฮฟวี่เวท 205 ปอนด์ (93 กก.) และรุ่นเฮฟวี่เวท 265 ปอนด์ (120 กก.) แม้ว่า UFC จะไม่มีรุ่นซูเปอร์เฮฟวี่เวทอย่างเป็นทางการสำหรับนักสู้ที่มีน้ำหนักมากกว่า 265 ปอนด์ แต่บางองค์กร MMA ก็ยอมรับรุ่นน้ำหนักนี้
ด้านการแข่งขัน MMA หญิงในปัจจุบันจถถูกจำกัดไว้เพียง 4 รุ่นน้ำหนัก ได้แก่ รุ่นสตรอว์เวท 115 ปอนด์ (52 กิโลกรัม) รุ่นฟลายเวท รุ่นแบนตัมเวท และรุ่นเฟเธอร์เวท อย่างไรก็ตาม องค์กร MMA อื่นๆ ได้อนุมัติการแข่งขันของผู้หญิงในรุ่นน้ำหนักเพิ่มเติมอีกหลายรุ่น รวมถึงรุ่นอะตอมเวท สำหรับนักสู้ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 105 ปอนด์ (48 กิโลกรัม)
สำหรับซีเกมส์ครั้งที่ 33 ปี 2025 นี้ MMA ถูกบรรจุเข้าแข่งขันในซีเกมส์ 2025 (ครั้งที่ 33) ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ ซึ่งถือเป็นปีแรกอย่างเป็นทางการ โดย MMA ถูกจัดเป็น "กีฬาส่งเสริมมูลค่า" หรือ "กีฬาเพื่อสร้างมูลค่า" เพราะสามารถต่อยอดเชิงพาณิชย์ได้สูง ทั้งในด้านการจัดอีเวนต์ การขายคอนเทนต์ และการดึงผู้ชมต่างชาติ ทั้งนี้ การใส่ "กีฬาส่งเสริมมูลค่า" เข้าไปในโปรแกรม (ซึ่งมีการแข่งขันชิงรวม 6 เหรียญทอง) จะช่วยให้เจ้าภาพทดลองรูปแบบการแข่งขัน ประเมินความนิยมของผู้ชม และสำรวจศักยภาพเชิงเศรษฐกิจ เช่น นักท่องเที่ยวเชิงกีฬา คอนเทนต์สตรีมมิง และการสนับสนุนเชิงพาณิชย์ รวมไปถึงยังเป็นช่องทางเปิดโอกาสให้กีฬาท้องถิ่นหรือกีฬามาแรงได้แสดงศักยภาพบนเวทีนานาชาติอีกด้วย
การแต่งกายถูกแบ่งแยกเพศด้วยรูปแบบของเสื้อผ้าเครื่องแต่งกายมาอย่างยาวนาน แต่ในปัจจุบัน เมื่อโลกของเราเปิดกว้างมากขึ้น ผู้คนได้ทำลายกรอบของสังคมที่เคยถูกปิดกั้น แล้วก้าวออกมาใช้ชีวิตในแบบของตัวเอง จึงทำให้เกิดการยอมรับความคิดใหม่ ๆ
อุตสาหกรรมดนตรีในยุคปัจจุบันมีช่องทางการเข้าถึงผู้ฟังที่หลากหลายขึ้นมาก เนื่องมาจากวิวัฒนาการของเทคโนโลยีในยุคใหม่ ส่งผลให้ผู้ฟังไม่จำเป็นต้องฟังเพลงผ่านทางสถานีวิทยุและไม่ต้องชมมิวสิควิดีโอจากสถานีโทรทัศน์อีกต่อไปแล้ว ยิ่งเมื่อโลกมีเทคโนโลยีในการสื่อสารใหม่อย่างสื่อสังคมออนไลน์ต่าง ๆ ทำให้ศิลปินมีข้อมูลเพิ่มมากขึ้นว่าจะควรจะทำอย่างไร เพื่อให้ผลงานเพลงที่พวกเขาทำไปถึงคนฟังเพลงได้อย่างกว้างขวางมากที่สุด
เมื่อ ‘คราฟต์’ หมายถึง งานฝีมืออันเป็นรูปธรรมที่เกิดจากทักษะการใช้มือและเครื่องมือพื้นฐานแล้ว หากเครื่องมือนั้นไม่ใช่สิ่วหรือค้อนเหมือนเคย แต่เป็นเครื่องมือจากเทคโนโลยีดิจิทัล งานเหล่านั้นจะถูกนับว่าเป็นส่วนหนึ่งของงานคราฟต์ได้หรือไม่ ?