ภายใต้ร่มพระบารมีแห่งสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ทรงพระราชทานพระราชดำริ “โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่” เพื่อให้ประชาชนอยู่ร่วมกับผืนป่าได้อย่างเกื้อกูล ฟื้นฟูธรรมชาติควบคู่ไปกับการพัฒนาคุณภาพชีวิตให้มั่นคงยั่งยืน ดั่งสายใยแห่งความรักระหว่าง “คน” กับ “ป่า” ที่เชื่อมโยงกันอย่างกลมกลืนทั่วผืนแผ่นดินไทย
“พระเจ้าอยู่หัวเป็นน้ำ ฉันจะเป็นป่า ป่าที่ถวายความจงรักภักดีต่อน้ำ พระเจ้าอยู่หัวสร้างอ่างเก็บน้ำ ฉันจะสร้างป่า”
พระราชดำรัสสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่แสดงถึงพระราชปณิธานอันแรงกล้าที่จะทรงงานด้านการอนุรักษ์ป่า ซึ่งเป็นแหล่งต้นน้ำ เพื่อสนับสนุนการทรงงานของในหลวง รัชกาลที่ 9 ที่ทรงให้ความสำคัญกับการพัฒนาแหล่งน้ำ เพื่อช่วยให้พสกนิกรชาวไทยมีน้ำเพียงพอต่อการดำรงชีพและการทำการเกษตร
หนึ่งในโครงการตามพระราชดำริที่แสดงให้เห็นถึงความใส่พระราชหฤทัยด้านการอนุรักษ์ป่าไม้และทรงห่วงใยชีวิตความเป็นอยู่ของคนในพื้นที่เป็นอย่างมากนั่นคือ ‘โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่’ โดยมีเป้าหมายเพื่อให้ราษฎรที่ขาดแคลนที่ดินทำกินหรือทำไร่เลื่อนลอย ได้มีที่ดินทำกินเป็นหลักแหล่ง พร้อมทั้งจะได้ร่วมกันฟื้นฟูป่าแหล่งต้นน้ำลำธารและส่งเสริมให้หมู่บ้านกลายเป็นแหล่งท่องเที่ยว ซึ่งพระองค์ได้ให้จัดตั้งขึ้นโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ที่บ้านห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เป็นที่แรก เมื่อ พ.ศ. 2534
สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระราชทานพระราชดำริให้มีการจัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่เป็นแห่งแรก ที่บ้านห้วยไม้หก อ.อมก๋อย จ.เชียงใหม่ เมื่อปี พ.ศ. 2534 มุ่งเน้นให้คนได้อยู่ร่วมกับป่าอย่างยั่งยืนผ่านหลักการ 3อ. คือ อิ่ม มีอาหารแหล่งโปรตีน, อุ่น มีที่อยู่อาศัยที่มั่นคง และอุดมการณ์ มีจิตสำนึกในการอยู่ร่วมกับป่า จวบจนถึงปัจจุบัน โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ในพระราชดำริของสมเด็จพระบรมราชชนนีพันปีหลวง ได้ขยายไปยังหลายจังหวัด อาทิ
ด้วยลักษณะทางภูมิศาสตร์ที่แตกต่างกัน ทำให้โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่แต่ละแห่งจึงมีการพัฒนาที่แตกต่างกันไป ได้แก่
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่บ้านห้วยหญ้าไซ อำเภอแม่สรวย จังหวัดเชียงราย เป็นหนึ่งในพื้นที่ต้นแบบของการอยู่ร่วมกันระหว่างคนกับป่าอย่างยั่งยืน ภายใต้พระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง พระองค์ทรงมีพระราชดำริให้จัดสรรพื้นที่ป่าเสื่อมโทรมให้ชุมชนชาวอาข่าเข้ามาอยู่อาศัยและทำกินอย่างถูกต้องตามกฎหมาย โดยมีเงื่อนไขสำคัญคือ ชาวบ้านต้องช่วยกันดูแลและฟื้นฟูป่าต้นน้ำให้กลับมาอุดมสมบูรณ์ดังเดิม
เมื่อได้รับการส่งเสริมจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ชุมชนได้พัฒนาแปลงเกษตรแบบขั้นบันได ปลูกข้าวและพืชเศรษฐกิจหมุนเวียนจนมีรายได้เพิ่มขึ้นเท่าตัว จากรายได้เฉลี่ย 30,000 บาทต่อปีเป็นกว่า 60,000 บาทต่อปี ปัจจุบันบ้านห้วยหญ้าไซจึงเป็นหมู่บ้านที่สงบงดงามท่ามกลางขุนเขา มีทั้งความอุดมสมบูรณ์ของผืนป่าและความมั่นคงของชีวิตชาวบ้าน ดั่งพระราชปณิธาน “ให้คนอยู่กับป่าได้ โดยไม่ทำลายป่า”
บ้านหนองห้า อำเภอเชียงคำ จังหวัดพะเยา เดิมเป็นพื้นที่ป่าที่ถูกบุกรุกและทำไร่เลื่อนลอย ส่งผลให้ดินเสื่อมโทรมและขาดแหล่งน้ำสำหรับการเพาะปลูก สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง จึงทรงมีพระราชดำริให้จัดตั้ง “โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่บ้านหนองห้า” เพื่อฟื้นฟูผืนป่าและยกระดับคุณภาพชีวิตของประชาชนในพื้นที่



โครงการนี้เน้นการปลูกพืชเศรษฐกิจที่เหมาะกับภูเขา เช่น กาแฟอาราบิกา พร้อมถ่ายทอดความรู้การแปรรูปผลผลิตและเพิ่มมูลค่าทางการตลาด จนเกิดแบรนด์ “กาแฟหนองห้า” ที่เป็นเอกลักษณ์ของชุมชน นอกจากจะสร้างรายได้ให้ครัวเรือนเพิ่มขึ้นแล้ว ยังเป็นสัญลักษณ์ของความร่วมมือระหว่างคนกับธรรมชาติ ที่ต่างหล่อเลี้ยงซึ่งกันและกันอย่างสมดุล
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ คลองลาน เกิดขึ้นเมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2537 จากพระราชดำริของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เพื่อแก้ไขปัญหาการบุกรุกป่าในเขตอุทยานแห่งชาติคลองลานและแม่วงศ์ พระองค์ทรงมีพระราชประสงค์ให้ราษฎรที่เคยอยู่อาศัยในพื้นที่ป่า ได้มีที่ทำกินที่มั่นคง โดยได้รับการจัดสรรที่ดินคนละ 5 ไร่ พร้อมแนวทางประกอบอาชีพที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

ภายใต้การสนับสนุนของหน่วยงานภาครัฐ ชาวบ้านได้หันมาทำเกษตรผสมผสานและฟื้นฟูป่าร่วมกัน ปัจจุบันพื้นที่แห่งนี้กลายเป็นตัวอย่างของการพัฒนาอย่างสมดุลระหว่าง “ชีวิต” และ “ธรรมชาติ” ที่งดงาม ทั้งยังเป็นจุดเรียนรู้สำคัญด้านการอนุรักษ์ป่าต้นน้ำและการพัฒนาอย่างยั่งยืนในภาคกลางของประเทศ
บนเทือกเขาสูงแห่งอำเภอแม่อาย จังหวัดเชียงใหม่ พระองค์ได้ทรงมีพระราชดำริเมื่อปี พ.ศ. 2543 ให้จัดตั้งโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ดอยฟ้าห่มปกขึ้น เพื่อให้ราษฎรในลุ่มน้ำแม่สาวมีที่อยู่อาศัยและที่ทำกินโดยไม่ต้องบุกรุกป่าเพิ่มเติม โครงการนี้ครอบคลุมพื้นที่กว่า 16,000 ไร่ และเป็นแบบอย่างของการจัดการพื้นที่ต้นน้ำอย่างยั่งยืน
ชุมชนได้รับการส่งเสริมให้ประกอบอาชีพเกษตรพอเพียง ปลูกพืชหมุนเวียนที่เหมาะกับภูมิอากาศเย็น และร่วมกันดูแลทรัพยากรธรรมชาติ เช่น ปลูกป่าเสริมและดูแลต้นน้ำให้คงความอุดมสมบูรณ์ ดอยฟ้าห่มปกจึงกลายเป็นพื้นที่ที่ทั้งคนและป่าต่างพึ่งพากันอย่างกลมกลืน เป็นภาพสะท้อนของพระมหากรุณาธิคุณที่ทรงห่วงใยทั้งชีวิตประชาชนและธรรมชาติผืนใหญ่ของแผ่นดิน
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่บ้านนามน ตั้งอยู่ที่ตำบลเมืองแหง อำเภอเวียงแหง จังหวัดเชียงใหม่ เป็นอีกหนึ่งพื้นที่ที่พระองค์ทรงเลือกให้เป็น “บ้านของคนกับป่า” อย่างแท้จริง พื้นที่แห่งนี้เป็นชุมชนของชาวไทยภูเขาหลากหลายเผ่า ทั้งลีซอ มูเซอ กะเหรี่ยง และอาข่า ซึ่งเดิมประสบปัญหาขาดที่ทำกินและต้องทำไร่เลื่อนลอย
ภายหลังได้รับพระราชดำริและการสนับสนุนจากโครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ ชุมชนได้ปรับเปลี่ยนวิถีชีวิตสู่การเกษตรยั่งยืน เช่น การปลูกข้าวหลากสายพันธุ์ การเลี้ยงปลา และการเลี้ยงสัตว์เพื่อยังชีพและสร้างรายได้เสริม ปัจจุบันหมู่บ้านนามนเป็นตัวอย่างของการพัฒนาอย่างร่มเย็น ที่ทั้งอนุรักษ์ป่าและสร้างความมั่นคงให้กับคนในพื้นที่ สะท้อนพระปณิธานอันแน่วแน่ของสมเด็จพระนางเจ้าฯ ที่ทรงมุ่งให้ “คนอยู่กับป่าได้ โดยที่ป่าก็ยังคงอยู่”
โครงการบ้านเล็กในป่าใหญ่ทั้งหลาย ล้วนสะท้อนพระมหากรุณาธิคุณอันยิ่งใหญ่ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง ที่ทรงมุ่งมั่นให้คนไทยอยู่ร่วมกับธรรมชาติได้อย่างสมดุล งดงาม และยั่งยืนตราบนานเท่านาน
นอกจากรอยเลื่อนสะกายในเมียนมา ซึ่งนับเป็นรอยเลื่อนที่มีความเสี่ยงสูงและศักยภาพรุนแรงหากเกิดเหตุแผ่นดินไหว ยังมีอีก 6 รอยเลื่อนแห่งประวัติศาสตร์ ที่ถูกบันทึกว่าเป็นภัยพิบัติครั้งใหญ่ของโลก
น้ำท่วมสูงเมื่อเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา นับเป็นอุทกภัยครั้งใหญ่สำหรับชาวจังหวัดน่าน แต่บางพื้นที่ที่ไม่เคยท่วมสาหัสแบบนี้มาก่อน
คนไทยเป็นชาติที่ดื่มกาแฟดุหรือเฉลี่ยคนละ 1.5 แก้วต่อวัน ธุรกิจร้านกาแฟจึงผุดขึ้นทั่วเมืองโดยเฉพาะในเชียงใหม่ ที่เป็นแหล่งปลูกกาแฟขึ้นชื่อของประเทศ